ความเคลื่อนไหวและอารมณ์สดใสของการเดินทางไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่หลายๆ คนต่างหวังอยากได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เรามีเวลาว่างสั้นๆ แต่มีความต้องการที่จะหาพื้นที่พักผ่อนหรือสนุกสนานให้เต็มที่ หากคุณกำลังมองหาที่ท่องเที่ยวสุดฟินในประเทศไทย จังหวัดกาญจนบุรีคือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่คุณควรพิจารณา!
ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเที่ยวกาญจนบุรีในระยะเวลา 3 วัน 2 คืน และจะครอบคลุมที่เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ และมีอะไรให้คุณค้นพบ ทั้งธรรมชาติสวยงาม อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของชาวพื้นเมือง
Day 1: Arrival in Kanchanaburi
เมื่อคุณมาถึงเมืองกาญจนบุรีในวันแรก คุณจะได้รับโอกาสในการสำรวจเมืองเพื่อให้คุณเข้าใกล้ชิดกับความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมือง นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่คุณควรไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชม
Exploring the city
เมืองกาญจนบุรีมีอากาศเมืองเล็กและเป็นกลางที่ชิลล์ๆ คุณสามารถเดินเล่นในย่านเมืองเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศท้องถนนที่เรียบง่ายและเป็นกันเองของกาญจนบุรีได้ คุณอาจพบกับร้านอาหารท้องถนนและร้านกาแฟสวยงามที่มีบรรยากาศเป็นเอกลักษณ์
Visiting the Bridge over the River Kwai
สะพานข้ามแม่น้ำแคว (Bridge over the River Kwai) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญประวัติศาสตร์ เป็นสะพานที่สร้างในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทหารญี่ปุ่นและทหารเวียดนามที่ถูกจำกัดเข้าคุกก่อนการสร้างสะพาน การเยี่ยมชมสะพานและรู้จักกับประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องจะเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น
Discovering the Kanchanaburi War Cemetery
สุสานกาญจนบุรี (Kanchanaburi War Cemetery) เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังพระบรมศพของนักรบที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว การเดินทางไปยังสุสานจะเป็นโอกาสที่ให้คุณได้รับรู้ถึงความเสียสละและความสำคัญของการสงบสุขในโลก
Enjoying a traditional Thai dinner
ในวันแรกของการเยี่ยมชมกาญจนบุรี คุณควรลิ้มรสอาหารไทยต้นตำรับที่ร้านอาหารท้องถนนหรือร้านอาหารท้องถนน เพื่อสัมผัสกับรสชาติที่เข้มข้นและเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย
Day 2: Nature and Adventure
ในวันที่สองของการเดินทาง คุณจะได้พบกับธรรมชาติที่งดงามและสัมผัสกับการผจญภัยในที่เยี่ยมชมในกาญจนบุรี
Exploring Erawan National Park
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ (Erawan National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสวยงามของธรรมชาติเต็มไปด้วยน้ำตกและสภาพแวดล้อมที่งดงาม คุณสามารถเดินเที่ยวและสำรวจน้ำตกในพื้นที่นี้ได้ เราแนะนำให้เดินทางไปยังน้ำตกเอราวัณที่มีระดับน้ำตก 7 ชั้น ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สุดของอุทยานแห่งชาติ
Trekking to the Erawan Waterfall
นอกจากการสำรวจน้ำตกแล้ว คุณยังสามารถลุยป่าและทำการเดินเที่ยวเพื่อไปสัมผัสกับน้ำตกเอราวัณอย่างใกล้ชิด การเดินเที่ยวบนเส้นทางที่สามารถลงไปใกล้น้ำตกเอราวัณจะเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดในการสำรวจธรรมชาติและการผจญภัยในกาญจนบุรี
Bamboo rafting on the Kwai River
การล่องแพบนแม่น้ำแคว (Bamboo rafting on the Kwai River) เป็นกิจกรรมที่สนุกและน่าตื่นเต้นที่คุณควรลองทำเมื่อเยี่ยมชมกาญจนบุรี คุณจะได้สัมผัสกับความสงบและความสวยงามของแม่น้ำแควขณะที่คุณลองข้ามน้ำด้วยเรือไม้พาย
Visit to the Hellfire Pass Memorial Museum
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอื่นๆ ในวันที่สองคือพิพิธภัณฑ์ถ้ำไฟ (Hellfire Pass Memorial Museum) ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่ที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในการสร้างทางรถไฟที่ผ่านหินผ่านดงสนามหลวง การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จะทำให้คุณได้รับรู้ถึงประสบการณ์และความทุกข์ยากของนายทหารที่ถูกสังหารในกระบวนการก่อสร้างถ้ำไฟ
วันที่ 3: การศึกษาวัฒนธรรม
ในวันที่สามของการเดินทางไปเที่ยวกาญจนบุรี คุณจะได้มีโอกาสในการศึกษาวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของพื้นที่
Exploring the JEATH War Museum
พิพิธภัณฑ์สงคราม JEATH (JEATH War Museum) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และชีวิตของนักรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ในโรงเรียนเก่าของนักเรียนสาธิตในกาญจนบุรี คุณจะได้รู้จักกับเรื่องราวและรูปภาพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ 2
Visit to the Prasat Mueang Singh Historical Park
การเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ (Prasat Mueang Singh Historical Park) เป็นทางเลือกที่ดีในการค้นพบโบราณสถานและอารยธรรมของอดีต คุณจะได้สัมผัสกับอากาศของประวัติศาสตร์และได้รู้จักกับอาคารโบราณและวัฒนธรรมที่สำคัญในพื้นที่
Experiencing the Mon Tribal Village
การไปเยี่ยมชมหมู่บ้านพื้นเมืองของชนเผ่ามอญ (Mon Tribal Village) เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชนเผ่ามอญ คุณจะได้พบกับบ้านพื้นเมืองที่สวยงามและได้รับความรู้เกี่ยวกับประเพณี วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตของชนเผ่านี้
Enjoying a riverside sunset dinner
ในวันสุดท้ายของการเดินทาง คุณสามารถสิ้นสุดวันโดยการนั่งริมแม่น้ำชมพระอาทิตย์ตกเหลืองที่แสนสงบบนริมแม่น้ำแคว และทานอาหารค่ำในบรรยากาศที่ริมน้ำที่งดงาม
สรุป
การเดินทางไปเที่ยวกาญจนบุรีเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสนุกสนาน คุณได้เข้าสัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามของน้ำตกและอุทยานแห่งชาติ และได้สำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของพื้นที่ที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคว พิพิธภัณฑ์สงคราม JEATH หรือหมู่บ้านพื้นเมืองชนเผ่ามอญ กาญจนบุรีเป็นที่ท่องเที่ยวที่คุณควรพิจารณาและมีโอกาสไปสำรวจในครั้งหน้า!
FAQs
กาญจนบุรีปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวหรือไม่?
ใช่, กาญจนบุรีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม คุณควรรักษาความระมัดระวังเช่นเดียวกับการเดินทางไปยังสถานที่ใดๆ ในโลก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมกาญจนบุรีคือเมื่อไหร่?
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมกาญจนบุรีคือในช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นและเงียบสงบ แต่คุณสามารถเยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี
วิธีการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังกาญจนบุรีอย่างไร?
คุณสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังกาญจนบุรีโดยรถไฟหรือรถบัส รถไฟถือเป็นทางเลือกที่สะดวกและราคาประหยัด และใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชั่วโมง สำหรับรถบัสก็มีบริการตลอดวัน
สามารถเที่ยวกาญจนบุรีในช่วงเวลาเดียวได้หรือไม่?
ใช่, ถ้าคุณมีเวลาจำกัดและต้องการทริปท่องเที่ยวในช่วงวันเดียว คุณสามารถเลือกทัวร์วันเดียวไปยังกาญจนบุรีได้ แต่คุณจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางสั้นๆ
มีตลาดน้ำลอยที่กาญจนบุรีหรือไม่?
ในปัจจุบันไม่มีตลาดน้ำลอยในกาญจนบุรี แต่คุณสามารถสัมผัสกับบรรยากาศตลาดน้ำลอยในจังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียงได้ อย่างเช่นตลาดน้ำลอยที่ตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน กินเที่ยวพักแพริมน้ำ ครบ! ep1 | Start Road นำทางเที่ยว [VIDEO]
#เที่ยวกาญจนบุรี #กาญจนบุรี #เที่ยวไทย
เที่ยวใกล้ขับรถชิลล์ ไม่มีทางหลง ดูแผนที่เลย 👉🏻 https://bit.ly/373DU9T
ฝากกดไลค์👍🏻 กดแชร์📣 กดติดตาม🔔 เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคร้าบบบบบ~
—————————
หรือจะแยกดูพิกัดตามจุดด้านล่างก็ได้นะครับ😉
🗺 ร้านอาหารเพชรพญา
📌 https://bit.ly/3jYzPYf
🗺 วัดถ้ำเสือ
📌 https://bit.ly/2SZnw1T
🗺 ไอดิน-กลิ่นข้าว
📌 https://bit.ly/3lLgHxm
🗺 วัดถ้ำพุหว้า
📌 https://bit.ly/3nRpRu0
🗺 The River Life Resort
📌 https://bit.ly/3jYpKux
—————-
ติดตามเส้นทางเที่ยวของพวกเรา ‘Start Road นำทางเที่ยว’ ได้เลยครับ
Facebook : https://bit.ly/3j1jgcW
Instagram : https://bit.ly/2SPpOAS
Twitter : https://bit.ly/31mcZ5R
Tiktok : https://bit.ly/3doFft4
—————-
#StartRoad #นำทางเที่ยว #StartRoadนำทางเที่ยว #เที่ยว #เที่ยวกาญจนบุรี #ที่เที่ยว #ท่องเที่ยว #แหล่งท่องเที่ยว #เที่ยวใกล้กรุงเทพ #ที่พัก #ร้านอาหาร #โรงแรม #รีสอร์ท #กาญจนบุรี #เที่ยวไทย #ที่เที่ยวกาญจนบุรี #แหล่งเที่ยว
เนื้อหาของวิดีโอ เที่ยวกาญจนบุรี 3 วัน 2 คืน กินเที่ยวพักแพริมน้ำ ครบ! ep1 | Start Road นำทางเที่ยว
เราก็ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืดนะครับผมพามาทางเส้นบรมราชชนนีนะครับซึ่งเป็นทางหลักที่ยังไม่สูงเหมือนกันอยู่แล้วผ่านพ้นๆมาครับเพื่อจะมุ่งสู่ถนนเพชรเกษมที่ทางตัดจะไปนครชัยศรีนะครับนัดทีมงานไว้แถวๆนั้นครับใกล้ๆแยกนะครับเป็นร้านอาหารชื่อร้านเพชรพญานาคตอนนี้ก็เล่นได้ว่าก็แค่ทีเดียวไปหาคนที่ผ่านมาบริเวณนี้ก็แวะกับอาจารย์มีความพิเศษตรงไหนชอบตรงที่ว่าเป็นศูนย์อาหารนะครับซึ่งมีกับข้าวจานเดียวนะครับหลากหลายอย่างมากเลยแต่ว่าเป็นเจ้าของเดียวกันเราก็เลยสามารถสั่งอะไรมารวมกับอะไรให้ออกมาตามที่ต้องการได้เลยร้านพัทยานะครับเปิดมานานแล้วครับกว่าตั้งวินถนนเกษมราษฎร์เวรตัดกรรมกับทางแยกบรมราชชนนีนะครับอำเภอนครชัยศรีก็จะผ่านอย่าบอกนะครับร้านนี้เมนูหลากหลายมากมายเลยต้องสั่งแปลกๆดูป้าผมเอาไว้ที่หลังหมูแดงหมูกรอบขาหมูราดน้ำขาหมูในจานเดียวนะเดี๋ยวไปดูทำหน้าตายังคุณป้าที่นี่เรียกว่าทีเดียวไม่หวงของรับจัดเต็มทุกจานครับว่าจะเป็นหมูชิ้นใหญ่ๆหมูแดงหรือเป็นเพิ่งลงจากเตามาถ้าใครหิวมากระหว่างรอก็รองท้องไว้ด้วยสามารถเดินก็ขอแนะนำครับแผนที่เดินทางกรุงเทพฯไปทางจังหวัดนครปฐมนะครับแวะมาได้ครับตั้งแต่โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นครับที่จอดรถสะดวกสบายกว้างขวางแล้วครับเดินทางต่อกับทีมงานอีก 50 ลิตรแล้วว่าตากล้องแล้วก็ทีมงานของเราจะสูงขนาด 180 เซนก็ยังสามารถนั่งเบาะหลังของToyota Hilux Revo คันนี้ได้อย่างไรไปสบายนะครับแล้วก็ยังสามารถลงทะเบียนได้ที่กล่องคูปองสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ด้วยนะครับฉันจะได้กินข้าวกับแล้วนะครับพี่น้องสำราญก็จะเริ่มหนาแน่นเรามาดูเส้นทางกันดีกว่าโดยการใช้แอปเปิ้ลคาร์เพลย์นะครับสามารถค้นหาได้เลยครับว่าจุดหมายต่อไปก็คือวัดถ้ำเสือนะครับเส้นทางได้แล้วครับนำทางได้เลยตลอดเส้นทางการเดินทางในครั้งนี้นะครับอาจารย์สะดวกเพราะว่าโตโยต้าไฮลักซ์รีโว่ร็อคโค่คันนี้ครับที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงข้อมูลการขับอ้วนครับหัวหน้าปัดพวงมาลัยปรับฟังก์ชั่นต่างๆรถเครื่องเสียงแล้วก็จอขับรถมาประมาณ 30-40 นาทีนะครับเราก็มาถึงถึงจุดหมายแรกแล้วนะครับที่วัดถ้ำเสือซึ่งเป็น Landmark สำคัญของอำเภอท่าม่วงจังหวัดกาญจนบุรีครับวัดถ้ำเสือมีนะครับเมื่อก่อนเป็นสำนักสงฆ์ธรรมดาเล็กๆนะครับทุกวันนี้ประชาชนสภาก็เลยร่วมกันสร้างนะครับเป็นหวัดใหญ่โตอย่างนี้หาบันไดข้างๆจะสูงนะแต่ว่าถ้าเราจะไม่ไหวก็ไม่ต้องล้างก็ได้ได้เลยครับมามาให้หมดเลยรถรางเลื่อนแล้วนะครับแต่ว่าก็เสียวนิดหน่อยแต่ก็แข็งแรงครับจะเป็นสลิงเส้นเดียวกันแล้วก็ทำเป็นสวนกันสถานที่ขบวนหนึ่งขึ้นติดขบวนก็จะลงจะระงับป่ะค่อยลงกันทางขึ้นจากบันไดหรือรถรางขึ้นมาแล้วนะครับจะมีทางลาดไว้ตลอดรับรถวีลแชร์ผู้สูงอายุนะครับสามารถไปได้ไปทั่วเลยครับน่าจะเป็นลานกว้างและไปด้วยกันครับวัดถ้ำเสือแห่งนี้นะครับนอกจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรีแล้วนะครับรอบข้างในทุ่งนาที่เขียวขจีเป็นฉากหลังแล้วก็ยังเป็นหวัดสำคัญที่ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องนะครับเพื่อมากราบไหว้นมัสการอาการพระพุทธรูปปางประธานองค์ใหญ่ที่ประทับเด่นอยู่บนเนินเขารวมทั้งพระบรมสารีริกธาตุที่อยู่บนชั้นสูงสุดของเจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทที่สูงเด่นถึง69 เมตรครับความยิ่งใหญ่อลังการของวัดที่เราเห็นได้มาแต่ไกลเลยนะครับความงามเหล่านี้นะครับมีรายละเอียดของสถาปัตยกรรมผมทั้งไทยจีนญี่ปุ่นแล้วก็กิจกรรมโบราณยังดึงดูดให้เราสนใจชื่นชมแล้วก็อยากจะเก็บภาพไว้ด้วยครับหลังจากที่ขึ้นไปสักการะด้านบนแล้วนะครับทางโรงเรียนแนะนำให้ลงในฝั่งซ้ายผัวจ๋าลงบันไดลงมาทั้งเสือนะครับแต่ว่าถ้าท่านผู้สูงอายุถ้าไม่ไหวจริงๆก็หลงทางหากำลังไฟฟ้าได้เหมือนเดิมนะครับนึกได้ครับว่าที่ว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงสำนักสงฆ์เขาก็ซื้อมาด้วยนี่แหละภายในก็มีพระประธานนะครับจะมีวัตถุมงคลของทั้งพระสงฆ์นะครับพี่รอรับสังฆทานจากผู้มีจิตศรัทธาอยู่นะครับลองทดสอบดูครับท่านที่จะมาเยี่ยมชมความงามของวัดถ้ำเสือนะครับเปิดให้ชมกันทุกวันครับตั้งแต่ 08:00 น ถึง18:00 น โดยไม่มีค่าเข้าชมนะครับเรื่องห้องน้ำห้องท่าก็ไม่ต้องกังวลครับสะอาดสะอ้านมีหลายห้องแยกระหว่างชายหญิงนะครับลานจอดรถกว้างขวางใหญ่โตด้านหน้ามีร้านค้าของฝากให้เลือกมากมายครับก็เรียบร้อยนะครับสำหรับวัดถ้ำเสือหลังจากเราได้ดูกันกับรอบแล้ววันนี้คนเยอะมากครับทัวร์มาลงกันเยอะแยะมากมายเดี๋ยวกินข้าวก่อนครับที่ร้านไอดินกลิ่นข้าวนะครับซึ่งอยู่หลังวัดเองก็จะมองเห็นมาตั้งแต่หน้าหลังด้วยขาดข้างหน้าเดี๋ยวไปครับจากท้องนาธรรมดาธรรมดาแต่สายตาของคุณเปิ้ลปรับมองเห็นความมหัศจรรย์ของความงามที่ซ่อนอยู่แบ่งพื้นหน้าบางส่วนมาเป็นไอดินกลิ่นข้าวจุดเริ่มต้นของการทำร้านนะคะก็คือเดิมทีที่นาเป็นที่ดินของบรรพบุรุษของคุณยายก็เลยคุยกับแฟนว่าเออเราอยากทำร้านอาหารอารยธรรมเปิดร้านขายกาแฟสดในบรรยากาศทุ่งนาอย่างนี้ค่ะคือเรามีที่ดินเราอยู่หลังวัดดังของกาญจนบุรีที่วัดถ้ำเสือกับวัดถ้ำเขาน้อยเขาก็เลยบอกว่าถ้าเราทำตรงนี้เราอยากทำเป็นแบบครบวงจรในเรื่องของเรามีทั้งเครื่องดื่มกาแฟสดมีทั้งอาหารไทยเช่นกันก๋วยเตี๋ยวเรือที่เพิ่งเปิดได้ประมาณเดือนกว่าๆค่ะอย่างแรกเลยครับพี่แนะนำตอนนี้เป็นเมนูใหม่เมืองสองแควของที่ร้านเราก็คือจะมีเป็นเรื่องของวัตถุดิบเราจะใช้เป็นตัวเบคอนแล้วก็ปรุงรสน้ำจิ้มไก่เป็นน้ำจิ้มจะมีเมนูอีกเมนูนึงก็คือตลาดหลวงพระบางมีครบเลยทั้งขนมGenus หนูผักสดหอยแครงแล้วก็แนะนำของการเลี้ยงคือเส้นมะละกอแล้วก็เมนูต่อไปนะคะถ้าจะเป็นกะปิแล้วก็คือสัตว์เป็นกะปิเคยกุ้งแท้จะวางเคียงด้วยผักมีทั้งผักดิบแล้วก็ผักตรงสุกแล้วชะอมถูกเลขไข่หนูตอบไปนะคะข้าวผัดหมูแดดเดียวเราก็ไม่รู้ต่อไปนะก็จะเป็นแกงส้มบัวหมูย่างอันนี้จะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือระเบิดมีทุกอย่างตั้งแต่หมูตุ๋นลูกชิ้นหมูเนื้อหมูปรับฉันในแล้วก็ตีนไก่เค้กเมนู signature ของที่ร้านเพราะว่าเค้กที่หลังจะไม่เมล็ดกาแฟของที่ร้านนะคะเราจะเป็นเมล็ดกาแฟคั่วBigasกาแฟของที่ร้านแล้วจะมีความโดดเด่นในเรื่องของความสดแล้วรสชาติที่เราคิดคิดค้นสูตรขึ้นมาปรับปรุงสูตรด้วยเนี่ยจะได้เป็นสูตรที่สุดขณะที่เราอิ่มอร่อยกับร้านไอดินกลิ่นข้าวแล้วนะครับจุดหมายต่อไปเราก็คือวัดถ้ำพุหว้าวันนี้ได้ยินชื่อว่ามีสถาปัตยกรรมสวยงามมากนะครับเราไปดูพร้อมกันเลยนะครับToyotaไฮลักซ์รีโว่ร็อคโค่คันนี้ว่าจะงานอะไรที่วัดนี้ครับเรายังเดินทางบนเส้นทางรองนะครับคดเคี้ยวผ่านหมู่บ้านสำหรับพื้นที่เกษตรที่มีท้องฟ้าใสและภูเขาสูงเพื่อนตลอดทางทางเข้าวัดถ้ำพุหว้าตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบสะอาดนะครับถนนลาดยางเรียบสนิทพอๆกับเส้นถนนที่คมชัดเส้นทางนำสู่ความสงบจะทำอันยิ่งใหญ่นะครับทรายมาเป็นอุโบสถธรรมชาติก่อนที่จะได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ด้วยการสร้างอุโบสถหินทรายครอบทำเอาไว้ด้วยสถาปัตยกรรมของประยุกต์นะครับส่วนลดไลน์ผลิตมาตามโนนสูงโนนต่ำนั้นเป็นคติธรรมของพระพุทธศาสนาที่ประณีตงดงามมากครับผมเข้ามาในบริเวณถ้ำของวัดถ้ำพุหว้านะครับซึ่งดูแล้วก็คือเป็นธรรมชาติอ่ะครับแต่ว่าถูกนำมาประยุกต์ด้วยการมีสิ่งก่อสร้างเสริมบันไดนี่เป็นไม้นะครับก็ไม่ทันมากค่อยๆเดินได้ครับผู้สูงอายุถ้าอยากจะมาแล้วผมเชื่อว่าจะได้สบายครับเดินลงมาแล้วเป็นแผ่นไม้ที่กว้างแล้วก็ไม่สูงมากนะครับไม่ทันมากเดี๋ยวก็มีผลต่อครับมีอะไรครับภายในถ้ำเป็นห้องโถงใหญ่มีห้องเล็กห้องน้อยประกอบอยู่รอบๆนะครับงดงามด้วยหินงอกหินย้อยธรรมชาติที่ถูกประดับไฟไว้อย่างลงตัวไปถ้ำของวัดถ้ำพุหว้านะครับท่านอาจารย์เที่ยวแล้วก็มีหลายห้องมากเลยผมเดินไปเดินมาผ่านถ้ำพญานาคมาเจอน้ำหยดตรงนี้มีน้ำหยดติ๋งๆวันนี้ฮะลงมาที่พื้นมาเช็ดพื้นตลอดเวลาตลอดทั้งปีนะครับจะมีน้ำหยดเรื่อยๆอย่างเช่นตอนนี้เป็นต้นคณาจารย์อักษรมีหลายห้องอยู่เหมือนกันครับผมไปต่อนะจากวัดถ้ำพุหว้านะครับเราเดินทางไกลกันอีกครั้งนึงไปบนถนนคดเคี้ยวสวยงามเพื่อมุ่งสู่อำเภอไทรโยคเพื่อเข้าสู่ที่พักของเราค่ำคืนนี้ครับRiver Life Resort ที่พักกลางขุนเขาแห่งอำเภอไทรโยคนะครับถ้าแขนรอต้อนรับทีมงานด้วยมิตรภาพสัมผัสแรกเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่เพื่อเปิดช่องฟ้ายามเย็นให้เราได้เห็นท้องฟ้ากว้างขึ้นห้องพักแนวโมเดิร์นที่ถูกจัดวางโดยรอบอย่างลงตัวนะครับมีทั้งแบบพร้อมทั้งแบบ bldg ที่ตั้งอยู่ด้านบนโค้งน้ำโซล่าเพื่อที่จะเข้าแนบชิดธรรมชาติให้มากขึ้นด้วยบ้านพักแบบDark Blueซึ่งเป็นแผลที่มีทั้งเสบียงแล้วก็แพไม้ไผ่อยู่หลังห้องที่ให้เราสัมผัสแม่น้ำแควน้อยอย่างใกล้ชิดทีเดียวนะครับก่อนที่จะขึ้นมาอิ่มอร่อยกับอาหารเย็นชุดใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ในแพ็คเกจเดียวกับห้องพักไปพร้อมๆกับพระอาทิตย์ที่ค่อยๆลับToyota Hilux Revo rocco ใหม่ครับถูกปรับเปลี่ยนทั้งไฟหน้าไฟท้ายและให้ความสำคัญกับกระบะฝาท้ายช่วยผ่อนแรงและไฟส่องสว่างภายในกระบะครับมีครับมี 2 แห่งนี้นะครับก็มีห้องพักหลายรูปแบบนะยังผมที่เข้ามาเรื่องแบบรักเพื่อลานะครับนึกว่าเป็นแผลแล้วก็สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติมากนะครับอยู่ริมบนดีกว่าอย่าลืมเลยนะฮะแล้วก็ตื่นเช้ามาก็เห็นแบบนี้ล่ะครับเห็นสายน้ำยังคงไหลอยู่ตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่หยุดเลยนะฮะแล้วก็เขาลงทั้งหมอก็มาเยี่ยมเยือนเราใกล้ๆตรงนั้นเสียงนกร้องมีให้ฟังเข้าที่ทำหน้าที่เดียวสวัสดีครับเราเดินทางกันต่อเดี๋ยวจะพาไปว่าไปที่ไหนบ้างครับระหว่างความประทับใจของ River Life Resort เดินทางไปยังจุดหมายต่อไปนะครับแต่จะเป็นที่ไหนตามกันได้ที่ทีน่าครับอย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจในการเดินทางของเราต่อไปด้วยนะครับ
Hello, my name is Kristen Sherwood and I am the proud owner of grapesandhops.net. I have always been a lover of travel and have made it a point to explore as many different corners of the world as possible. Along the way, I have developed a passion for discovering great restaurants and unique places to stay, and I created grapesandhops.net as a platform to share my experiences and recommendations with others. Whether you are looking for the best local cuisine or the coziest boutique hotels, I hope to provide you with the insights and inspiration you need to plan your next adventure.